การเก็บรักษา Bitcoin

การเก็บรักษา Bitcoin

การเก็บรักษาบิตคอยน์นั้น เราจะเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอล หรือ Wallet โดยที่ในปัจจุบันมี Wallet มากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความต้องการ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของกระเป๋าเงินบิตคอยน์ออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

1. Hot wallet

Hot wallet เป็นการเก็บบิตคอยน์ไว้ในกระเป๋าที่สามารถหยิบออกมาใช้ได้ง่ายและเร็วที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแฮกค์หรือขโมยด้วยเช่นกัน ตัวอย่างของ Hot wallet เช่น App ในมือถือ หรือ App บน PC ซึ่งเราสามารถใช้จับจ่ายซื้อของได้ง่าย หรือ การเก็บบิตคอยน์ไว้บนเว็บที่ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน (Trading platform) ก็ถือว่าเป็น Hot wallet ชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน

2. Cold wallet

Cold wallet จะเป็นการเก็บเงินบิตคอยน์แบบ offline ไม่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถมาแฮกค์เอาบิตคอยน์ของเราไปได้ ยกเว้นเราจะทำ cold wallet เหล่านี้หายเอง Cold wallet หรือ Cold storage ที่นิยมใช้คือ Paper wallet ดังนั้นการเก็บรักษา Wallet ชนิดนี้ในที่ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

3. Hardware wallet

Hardware wallet คือการเก็บบิตคอยน์ไว้ในอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านช่อง USB ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์หรือวิธีเก็บที่มีความปลอดภัยมาก เนื่องจากเราจะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เมื่อต้องการใช้เงินเท่านั้น และยังมีรหัสที่ต้องป้อนที่ตัวอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้ด้วย (ในทางเทคนิค บิตคอยน์จะถูกเก็บไว้บน Blockchain เท่านั้น อุปกรณ์ Hardware wallet นี้ จึงทำหน้าที่เพียงเก็บ Private key ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเรียกข้อมูลล่าสุดและการทำธุรกรรมของบิตคอยน์ – เช่นเดียวกับ Paper wallet และ Software wallet)

4. Software wallet

Software wallet คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่เราต้องติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือ โดยที่เราสามารถจัดการเงินในบัญชีต่าง ๆ ได้โดยอิสระ โปรแกรมเหล่านี้มักถูกเข้ารหัสชั้นสูง ยากต่อการเจาะระบบ แต่เราจำเป็นต้องเก็บรักษา Private key และ Seed keys ไว้ในที่ปลอดภัย เพราะถ้าคอมพิวเตอร์พังหรือต้องเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ เราสามารถเรียกคืนข้อมูลในบัญชีทั้งหมดได้ด้วย Private key หรือ Seed keys นั้น แต่ถ้า private key หรือ seed keys หาย ทุกอย่างก็จะหายไปตลอดกาลเช่นกัน

Related Posts